ภาพหญิงสาวยืนอยู่หน้าชั้นวางสินค้าขนาดต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยกล่อง

รู้หรือไม่ เทคนิคการขายสินค้าหลายขนาด ช่วยกระตุ้นการซื้อได้ดี

เคยสังเกตไหมคะว่าเมื่อคุณเข้าไปเลือกซื้อน้ำอัดลมหรือขนมขบเคี้ยว ทำไมถึงมีตัวเลือกขนาดต่างๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไซส์เล็ก กลาง หรือใหญ่? จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์ต่างๆ ใช้เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกสนใจและมีตัวเลือกให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น การมีตัวเลือกที่หลากหลายสามารถเพิ่มโอกาสในการขายได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มักจะชอบมีทางเลือกและรู้สึกคุ้มค่าในทุกการตัดสินใจ

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า การขายสินค้าหลายขนาดนั้นมีพลังแฝงที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างไร

ทำไมสินค้าถึงต้องมีหลายขนาด?

ภาพหญิงสาวกำลังถ่ายรูปสินค้าที่วางบนชั้นขนาดต่าง ๆ

การมีสินค้าหลายขนาดในตลาดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มยอดขายและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

ภาพชายหนุ่มกำลังเลือกดูหนังสือในร้านหนังสือที่มีชั้นวางหลากหลาย

หลักจิตวิทยาในการเลือกซื้อ

การมีตัวเลือกหลายขนาดช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการและความสามารถในการจ่ายของตนเอง ซึ่งเป็นการสร้างความรู้สึกว่ามีทางเลือกมากขึ้นและสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองได้

ผู้บริโภคมักจะรู้สึกว่าการเลือกซื้อสินค้าขนาดใหญ่หรือแพ็กเกจที่มีมูลค่ามากกว่าจะคุ้มค่ากว่า เช่น การซื้อขนาดใหญ่ในราคาที่ถูกกว่าการซื้อหลายขนาดเล็ก. นอกจากนี้ การมีตัวเลือกหลายขนาดยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขากำลังทำการตัดสินใจที่ดีและมีความคุ้มค่าในการซื้อ

ภาพกลุ่มคนหลากหลายยืนอยู่หน้ากำแพงที่มีไอเดียและแผนการตลาด

เหตุผลที่ทำให้ลูกค้าชอบเทคนิคการขายสินค้าหลายขนาด?

การใช้เทคนิคการขายสินค้าหลายขนาดมีเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าชอบและตอบสนองต่อกลยุทธ์นี้อย่างดี ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

1.ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง

การมีสินค้าหลายขนาดช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการปริมาณน้อยหรือมาก เช่น น้ำอัดลมที่มีไซส์ S, M, L หรือขนมขบเคี้ยวที่มีซองเล็กและใหญ่ ลูกค้าสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือความต้องการในขณะนั้นได้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีทางเลือกและสามารถควบคุมการใช้จ่ายของตนได้ดีขึ้น

2.สร้างความรู้สึกคุ้มค่า

การมีตัวเลือกหลายขนาดทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีความสามารถในการเลือกซื้อสินค้าตามกำลังทรัพย์ของตนเอง โดยเฉพาะเมื่อสินค้าขนาดใหญ่มีราคาที่คุ้มค่ากว่าการซื้อสินค้าขนาดเล็กหลายชิ้น ลูกค้าจึงมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าขนาดใหญ่เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้จ่าย การสร้างความรู้สึกคุ้มค่าช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต

3.กระตุ้นให้ซื้อซ้ำ

เมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าขนาดเล็กและใช้หมดไปแล้ว พวกเขามักจะมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มยอดขายในระยะยาว การที่ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้อขนาดใหญ่มีความคุ้มค่ามากกว่าการซื้อขนาดเล็ก ทำให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าขนาดใหญ่ในครั้งถัดไป นอกจากนี้ การซื้อซ้ำยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์และเพิ่มความภักดีของลูกค้าในระยะยาว

ภาพชายคนหนึ่งกำลังจัดเรียงกล่องขนมขนาดต่าง ๆ

ตัวอย่างเทคนิคที่ใช้ได้จริง

  • ขนาดตัวอย่างฟรี: แจกสินค้าขนาดเล็กให้ทดลองก่อน เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อขนาดใหญ่
  • แพ็คคู่คุ้มกว่า: รวมสินค้าหลายขนาดเข้าด้วยกันในราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้ซื้อเยอะขึ้น
  • ขนาดสำหรับทุกโอกาส: ออกแบบขนาดสินค้าให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น ขนาดเล็กที่สะดวกต่อการพกพาหรือใช้งานระหว่างเดินทาง และขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรือการจัดเก็บในระยะยาว
ภาพชายหนุ่มกำลังเลือกดูผลิตภัณฑ์ขนมในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีหลายขนาด

กลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ในการขายสินค้าหลายขนาด

1.การตั้งราคาแบบหลอกล่อ (Decoy Pricing)

การตั้งราคาแบบหลอกล่อเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ราคาเป็นเครื่องมือในการชักจูงให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการ โดยการนำเสนอตัวเลือกที่มีราคาสูงกว่าแต่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเลือกที่มีราคาสูงกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า เช่น การตั้งราคากาแฟขนาดเล็ก 30 บาท ขนาดกลาง 40 บาท และขนาดใหญ่ 45 บาท ลูกค้ามักจะเลือกขนาดกลางเพราะรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่าขนาดเล็ก แม้ราคาจะต่างกันเพียง 10 บาท แต่ได้ปริมาณมากขึ้น

2.การขายสินค้าเป็นชุดตามขนาด (Size-Based Product Bundling)

การขายสินค้าในรูปแบบแพ็กเกจหลายขนาดเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับสินค้าที่คุ้มค่ามากขึ้น เช่น การเสนอเซตสินค้าในขนาดต่างๆ ในราคาพิเศษ โดยเมื่อรวมกันแล้วราคาจะถูกกว่าการซื้อสินค้าขนาดเดียวแยกกัน เช่น แพ็กเกจเครื่องสำอางที่รวมขนาดพกพาและขนาดปกติไว้ด้วยกันในราคาพิเศษ ลูกค้าจะรู้สึกว่าการซื้อเซตขนาดต่างๆ นั้นมีความคุ้มค่ากว่าและตอบโจทย์การใช้งานในหลายสถานการณ์

3.การให้ส่วนลดเมื่อซื้อขนาดใหญ่ (Discounts for Larger Sizes)

การให้ส่วนลดกับสินค้าขนาดใหญ่หรือสินค้าขนาดหลายชิ้นในครั้งเดียวเป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าให้ซื้อสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นเพราะได้รับส่วนลดมากขึ้น ลูกค้าจะรู้สึกว่าการซื้อสินค้าขนาดใหญ่คุ้มค่ากว่าการซื้อสินค้าขนาดเล็กในระยะยาว เช่น ซื้อแชมพูขนาด 500 มล. ลด 10% เมื่อเทียบกับขนาด 250 มล. หรือซื้อแพ็ก 3 ชิ้นในราคาที่คุ้มค่ากว่าซื้อแยก

4.การจัดวางสินค้า (Product placement)

การจัดวางสินค้าหลายขนาดในแนวดิ่ง โดยวางขนาดเล็กไว้ด้านบนและขนาดใหญ่ไว้ด้านล่าง ช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นและเลือกซื้อได้ง่าย ซึ่งมักจะส่งผลให้ลูกค้าเลือกซื้อขนาดกลางมากที่สุด เพราะรู้สึกว่าคุ้มค่าระหว่างขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น การจัดวางขนมขบเคี้ยวขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ลูกค้ามักจะเลือกขนาดกลางมากที่สุด

สรุป

เทคนิคการขายสินค้าหลายขนาดเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากธุรกิจของคุณยังไม่ได้นำเทคนิคนี้ไปใช้ ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ อาจจะได้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจก็ได้ค่ะ