ภาพแสดงตัวอย่างกล่อง ที่ถูกเคลือบผิวด้วยการเคลือบหลายประเภท

การเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

การเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์เป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ให้กับกล่อง ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม ความคงทน หรือการปกป้องสินค้าภายใน ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของการเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์ คุณสมบัติ และการใช้งานกันค่ะ

6 ประเภทของการเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์

ภาพแสดงประเภทกล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งมีการเคลือบผิวหลายรูปแบบ

การเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการของผู้ผลิต ได้แก่

1.การเคลือบเงา (Gloss Coating)

การเคลือบเงาเป็นการเคลือบที่ให้ความมันวาว สะท้อนแสงได้ดี ทำให้สีสันของกล่องดูสดใส สวยงาม และน่าสนใจ เมื่อมองในระยะไกล การเคลือบเงาจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับกล่อง ดึงดูดสายตาของผู้บริโภค การเคลือบเงานิยมใช้กับกล่องที่ต้องการความหรูหรา เช่น กล่องของขวัญ กล่องเครื่องสำอาง กล่องสินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น เพราะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และสร้างความรู้สึกพรีเมียมให้กับแบรนด์ อย่างไรก็ตาม การเคลือบเงาอาจไม่เหมาะกับงานพิมพ์ที่มีรายละเอียดมาก เพราะอาจทำให้เกิดการสะท้อนแสงรบกวนการมองเห็น

2.การเคลือบด้าน (Matte Coating)

การเคลือบด้านเป็นการเคลือบที่ให้ผิวสัมผัสดูด้าน ไม่มันวาว แต่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล สบายตา และดูหรูหรา เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความเรียบละเอียด การเคลือบด้านเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการความดูดี มีระดับ เช่น กล่องเครื่องประดับ กล่องนาฬิกา กล่องไวน์ กล่องสินค้าแบรนด์เนมระดับสูง เป็นต้น การเคลือบด้านจะช่วยเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้กับสินค้า และสื่อถึงคุณภาพที่เหนือระดับ นอกจากนี้ การเคลือบด้านยังเหมาะกับงานพิมพ์ที่มีรายละเอียดมาก เพราะไม่มีแสงสะท้อนมารบกวนการมองเห็น ทำให้เห็นรายละเอียดของงานพิมพ์ได้ชัดเจน

3.การเคลือบ UV (UV Coating)

การเคลือบ UV เป็นการเคลือบที่ใช้แสง UV ในการทำให้เคลือบแห้งและยึดติดกับผิวกล่อง การเคลือบ UV จะให้ผิวสัมผัสมันวาวคล้ายกับการเคลือบเงา แต่จะมีความคงทนมากกว่า สามารถป้องกันรอยขีดข่วน กันน้ำ และป้องกันแสง UV ได้ดี การเคลือบ UV จึงเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการความทนทานสูง เช่น กล่องอาหาร กล่องยา กล่องเครื่องสำอางบางประเภท เป็นต้น เพราะช่วยปกป้องสินค้าภายในจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งและจัดเก็บ การเคลือบ UV ยังให้ผิวสัมผัสที่ดูมีมิติ เพิ่มความน่าสนใจให้กับกล่อง แต่ราคาจะสูงกว่าการเคลือบแบบอื่นๆ

4.การเคลือบน้ำมัน (Oil Coating)

การเคลือบน้ำมันเป็นการเคลือบด้วยน้ำมันพิเศษ ที่ช่วยให้ผิวกล่องมีสัมผัสมันและลื่น การเคลือบน้ำมันจะช่วยกันน้ำ และป้องกันไม่ให้หมึกพิมพ์หลุดลอก จึงเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการความทนทานปานกลาง เช่น กล่องอาหารแห้ง กล่องขนม กล่องขนมปัง เป็นต้น การเคลือบน้ำมันจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของกล่อง และรักษาคุณภาพของสินค้าภายในได้นานขึ้น แต่การเคลือบน้ำมันจะไม่เงาวาวเท่ากับการเคลือบเงาหรือการเคลือบ UV และอาจมีกลิ่นน้ำมันติดมากับกล่องได้

5.การเคลือบมัน (Glossy Lamination)

การเคลือบมันเป็นการเคลือบด้วยฟิล์มพลาสติกใส ที่ช่วยให้ผิวกล่องมีความมันเงาและเรียบเนียน การเคลือบมันจะช่วยปกป้องกล่องจากความชื้น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล่อง จึงเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการความสวยงามและความคงทนไปพร้อมกัน เช่น กล่องเครื่องสำอาง กล่องอาหารเสริม กล่องของขวัญ เป็นต้น การเคลือบมันจะให้ความมันวาวใกล้เคียงกับการเคลือบเงา แต่จะมีความทนทานมากกว่า สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและความเสียหายจากการใช้งานได้ดี แต่การเคลือบมันจะทำให้กล่องมีน้ำหนักมากขึ้น และมีราคาสูงกว่าการเคลือบแบบอื่นๆ

6.การเคลือบเงาซาติน (Satin Coating)

การเคลือบเงาซาตินเป็นการเคลือบที่ให้ความมันเงาระดับกลาง ไม่วาวจ้าเกินไป แต่ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวลและดูผ่อนคลาย การเคลือบเงาซาตินจึงเหมาะสำหรับกล่องที่ต้องการความสง่างามและดูมีระดับ เช่น กล่องเครื่องหนัง กล่องนาฬิกา กล่องเครื่องประดับ เป็นต้น การเคลือบเงาซาตินจะให้ลุคที่ดูอ่อนโยนและสบายตากว่าการเคลือบเงา แต่ยังคงความหรูหราและพรีเมียม เหมาะกับสินค้าที่ต้องการสื่อถึงคุณภาพชีวิตและรสนิยมที่ดี การเคลือบเงาซาตินจะช่วยปกป้องกล่องจากรอยขีดข่วนและคราบสกปรกได้ระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ทนทานเท่ากับการเคลือบมันหรือการเคลือบ UV

ภาพแสดงตัวอย่างกล่องบรรจุภัณฑ์จาก MeKa Serum และ The Flash ที่มีการเคลือบผิว

คุณสมบัติของการเคลือบที่ทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์น่าสนใจ

  • ความคงทน: ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อการขีดข่วน กดทับ และความชื้น
  • ความเงางาม: ช่วยเพิ่มความมันวาว สะท้อนแสง ทำให้กล่องดูสวยงาม น่าสนใจ
  • กันน้ำ: ช่วยป้องกันความชื้น และน้ำ ไม่ให้ซึมเข้าไปในกล่องได้
  • กันรอยขีดข่วน: ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง
  • ป้องกันแสง UV: ช่วยป้องกันกล่องจากรังสี UV ที่ทำให้สีซีดจาง เสื่อมสภาพ
ภาพแสดงผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์กล่อง ซึ่งมีการเคลือบผิวแบบต่างๆ

การใช้งานการเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์

การเลือกใช้การเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนี้

  • เพื่อเพิ่มความสวยงาม: หากต้องการกล่องที่ดูโดดเด่น หรูหรา ควรเลือกการเคลือบเงา, การเคลือบมัน, การเคลือบเงาซาติน
  • เพื่อปกป้องเนื้อหา: หากต้องการปกป้องสินค้าภายในจากความชื้น แสง UV ควรเลือกการเคลือบ UV, การเคลือบน้ำมัน
  • เพื่อเพิ่มความทนทาน: หากต้องการกล่องที่แข็งแรง ทนต่อสภาพแวดล้อม ควรเลือกการเคลือบ UV, การเคลือบมัน
  • เพื่อเพิ่มสัมผัส: หากต้องการกล่องที่ให้ความรู้สึกพิเศษเมื่อสัมผัส ควรเลือกการเคลือบด้าน, การเคลือบน้ำมัน

สรุป

การเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์มีหลายประเภท ทั้งการเคลือบเงา การเคลือบด้าน การเคลือบ UV การเคลือบน้ำมัน การเคลือบมัน และการเคลือบเงาซาติน แต่ละประเภทจะให้คุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งความคงทน ความเงางาม การกันน้ำ การกันรอยขีดข่วน และการป้องกันแสง UV ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเพิ่มความสวยงาม ปกป้องเนื้อหา เพิ่มความทนทาน หรือเพิ่มสัมผัส

การเลือกการเคลือบที่เหมาะสมจะช่วยให้กล่องบรรจุภัณฑ์ของเรามีคุณภาพ สวยงาม โดดเด่น และสามารถปกป้องสินค้าภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอนค่ะ