ฉลากสินค้า และ 6 สิ่งที่ควรรู้

ฉลากสินค้า และ 6 สิ่งที่ควรรู้

ฉลากสินค้าเป็นองค์ประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์หลายชนิด ทำหน้าที่เป็นช่องทางในการถ่ายทอดข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างการจดจำตราสินค้าและเพิ่มความสวยงามความน่าดึงดูดใจของผลิตภัณฑ์และนอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับฉลากอีกมากมาย เพื่อที่จะได้นำข้อมูลหรือความรู้เหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในการทำฉลาก ฉะนั้นแล้วเราก็ไปดูกันเลยว่า 6 สิ่งที่ควรจะรู้เกี่ยวกับฉลากสินค้านั้นมีอะไรบ้าง

สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนสั่งพิมพ์ฉลากสินค้า

ฉลากสินค้า และ 6 สิ่งที่ควรรู้ 2

การที่เราทราบข้อมูลเกี่ยวกับฉลากสินค้าก่อนที่เราจะสั่งพิมพ์ฉลากสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าเราเลือกฉลากที่เหมาะสมกับความต้องการแล้ว และการที่รู้ข้อมูลรายละเอียดก่อนนั้น ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงข้อผิดพลาดต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้นแล้วสิ่งที่ต้องรู้ก่อนสั่งพิมพ์ฉลากสินค้า ก็มีรายละเอียด ดังนี้

1.วัตถุประสงค์หลักของฉลากสินค้า

  • จำเป็นต้องรู้ว่าวัตถุประสงค์หลักของสินค้ามีประโยชน์อย่างไร: มีไว้เพื่อทำหน้าที่อะไร ซึ่งฉลากสินค้าแต่ละประเภทอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ และวัตถุประสงค์หลักของฉลากสินค้า ก็ได้แก่การให้ข้อมูลสำคัญแก่ลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ส่วนผสม ข้อมูลทางโภชนาการ คำแนะนำการใช้ และคำเตือน ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์อาหารต้องแสดงรายการส่วนผสม และข้อมูลทางโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ เช่น ยาหรือสารเคมี อาจมีคำแนะนำการใช้และคำเตือน เป็นต้น
  • เพื่อความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ: ฉลากสติกเกอร์มักใช้เพื่อระบุข้อมูลด้านความปลอดภัย เช่น ประเทศต้นทาง บาร์โค้ด รหัส QR และข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ ตามการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
  • ส่งเสริมการตลาด: ฉลากสินค้าอาจมีการรวมถึงส่วนลดข้อเสนอพิเศษหรือสโลแกนที่สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้

2.วัสดุ

การเลือกวัสดุเพื่อจะมาทำฉลากสินค้าก็มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียวเพราะวัสดุที่เลือกมาทำนั้นจะต้องมีคุณภาพ เช่น ต้องมีความทนทาน การกันน้ำและมีคุณภาพในการพิมพ์ ดังนั้นการเลือกวัสดุที่ตรงกับความต้องการของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์จึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะฉลากสินค้าแต่ละชนิด แต่ละประเภทก็ใช้กับสินค้าที่แตกต่างกันออกไปด้วย และวัสดุที่นิยมนำมาทำฉลากสินค้าก็ ได้แก่

  • กระดาษ: ฉลากกระดาษเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์จำนวนมาก เนื่องจากมีราคาไม่แพงน้ำหนักเบา และพิมพ์ได้ง่าย สามารถเคลือบหรือไม่เคลือบก็ได้ และสามารถพิมพ์ได้โดยการใช้ระบบการพิมพ์แบบดิจิตอล และฉลากกระดาษยังเป็นทางเลือกที่ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
  • กระดาษคราฟท์: เป็นกระดาษที่มีความแข็งแรงทนทาน เมื่อใช้ทำฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้มีรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่าย หรือเป็นธรรมชาติแก่ผลิตภัณฑ์ มักใช้กับรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีลักษณะเป็นธรรมชาติหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • พีพี (PP): ฉลากพีพีสามารถกันน้ำและทนทาน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูง นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะสำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ต้องจัดส่งบ่อยๆสามารถพิมพ์โดยใช้การพิมพ์ดิจิตอล
  • พีวีซี (PVC): เป็นฉลากสินค้าที่สามารถกันน้ำได้จึงเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการสัมผัสกับน้ำ เช่น ขวดน้ำ เป็นต้น

3.ขนาดและรูปร่าง

ขนาด และรูปร่างของฉลากสินค้าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ ฉลากบางอันมีขนาดเล็ก และเป็นวงกลม ในขณะที่บางอันมีขนาดใหญ่ และเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนั้นแล้วขนาดและรูปร่างของฉลากควรมีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ เพื่อให้อ่านได้เข้าใจได้ง่าย และจะต้องไม่รบกวนการทำงาน หรือความสวยงามของผลิตภัณฑ์

4.วิธีการพิมพ์

การพิมพ์ฉลากสินค้าส่วนมากแล้วจะนิยมใช้ระบบพิมพ์ดิจิตอล เนื่องจากระบบพิมพ์แบบดิจิตอลสามารถที่จะพิมพ์ได้ตั้งแต่จำนวนน้อย ไปถึงจำนวนมาก และมีความรวดเร็ว งานสี หรืองานพิมพ์ที่ออกมามีความคมชัด สวยงาม ซึ่งเหมาะกับการพิมพ์ฉลากสินค้าเป็นอย่างมาก เพราะหากว่าฉลากสินค้ามีสีที่สวยงาม สามารถเห็นข้อความบนฉลากได้ชัดเจนแล้ว จะทำให้ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้นั่นเอง

5.กาว

กาวที่ใช้กับฉลากสินค้า สินค้าบางประเภทก็ใช้แบบกาวติดถาวร เนื่องจากกาวชนิดนี้มีแรงยึดเหนี่ยวที่แข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศ และการเก็บรักษา และผลิตภัณฑ์บางอย่างก็อาจต้องใช้กาวแบบถอดได้ หรือกาวแบบติดซ้ำได้ ซึ่งช่วยให้ลอกฉลากออกได้ง่ายโดยไม่ทิ้งคราบกาว และกาวที่นิยมใช้กันมากที่สุด ได้แก่

  • กาวอะคริลิค เป็นกาวที่มีความเหนียวแน่น และทนทานต่อความร้อน สารเคมี และความชื้น
  • กาวร้อนละลายเป็นกาวที่แข็งแรง และทนต่อความร้อน และความชื้น
  • กาวที่ทำจากยาง เป็นกาวที่ยึดเกาะแข็งแรง และยังมีความยืดหยุ่นสูง

6.ค่าใช้จ่าย

ฉลากสินค้าเป็นสื่อการตลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีค่าใช้ค่าจ่ายที่ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับสื่อการตลาดประเภทอื่น เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีราคาต้นทุนไม่แพงมาก อีกทั้งกระดาษ 1 แผ่นสามารถผลิตฉลากสินค้าได้หลายชิ้น ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าแต่ละประเภทก็มีราคาที่แตกต่างกันไปจึงควรต้องมีการพิจารณางบประมาณของคุณก่อนโดยอาจมีการสอบถามเซลล์ หรือทีมงานที่รับผิดชอบก่อน เช่น การขอใบเสนอราคาจากบริษัทพิมพ์ฉลาก และเปรียบเทียบต้นทุนของวัสดุ วิธีการพิมพ์ และปริมาณต่างๆสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาต้นทุนระยะยาวด้วยเนื่องจากตัวเลือกที่มีราคาแพงกว่าจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหรือให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่านั่นเอง


สรุป

ฉลากสินค้าเป็นองค์ประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ เป็นการช่วยสร้างการจดจำตราสินค้า และเพิ่มความสวยงาม ความน่าดึงดูดใจของผลิตภัณฑ์ ฉลากสินค้าเป็นสื่อการตลาดอย่างหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักของฉลากสินค้า ก็ได้แก่การให้ข้อมูลสำคัญแก่ลูกค้าซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่างๆ