ข้อแตกต่างระหว่าง สติ๊กเกอร์ไดคัทและสติ๊กเกอร์ธรรมดา
บทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างสติ๊กเกอร์ไดคัทและสติ๊กเกอร์ธรรมดา รวมถึงการใช้งานและคุณสมบัติของทั้งสองสติ๊กเกอร์ เพื่อหาสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสำหรับคุณ
ปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่าร้านค้าต่างๆไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าหันมานิยมใช้ “ถุงกระดาษ” กันมากขึ้น เพราะว่านอกจากจะเป็นการช่วยรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแล้วยังสามารถนำถุงกระดาษกลับไปใช้ซ้ำใช้ใส่ของอื่นๆ ได้อย่างสวยๆ เก๋ๆและอย่างที่เราคงเคยเห็นกันดีว่าถุงกระดาษนั้นก็มีหลายแบบหลายสไตล์ บ้างก็เป็นถุงกระดาษสีน้ำตาลเรียบๆบ้างก็เป็นถุงกระดาษสีสันสดใสที่พิมพ์ลวดลายสวยงามแต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า กว่าจะเป็นถุงกระดาษสวยๆที่เราใช้เป็นถุงช้อปปิ้งหรือถุงใส่ของนั้น เราต้องเลือกใช้กระดาษแบบไหนและมีการเลือกใช้เชือกหูหิ้วแบบไหนบ้างเราไปหาคำตอบกับ Printcafe กันเลยค่ะ
ถุงกระดาษ เป็นถุงประเภทหนึ่งที่ร้านค้านิยมใช้เพื่อบรรจุสินค้าที่ลูกค้าซื้อ โดยทั่วไปแล้วถุงเหล่านี้จะทำมาจากกระดาษที่มีคุณสมบัติในการใช้งานแตกต่างกันไป แต่ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้ถุงพลาสติก ทั้งยังสะดวกต่อการถือใส่สิ่งของเพราะมีหูหิ้วที่ทำให้พกพาสะดวกที่สำคัญถุงกระดาษยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ให้ดูดี มีความพรีเมียมทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี และช่วยโปรโมทแบรนด์ได้อีกด้วยยิ่งถุงกระดาษสวยๆก็ทำให้ใครอยากถือและเกิดความสนใจว่าถุงกระดาษเป็นของแบรนด์ใดโดยกระดาษที่นิยมนำมาใช้ผลิตถุงกระดาษ มีดังนี้
หากพูดถึง ถุงกระดาษ หลายคนอาจนึกภาพของถุงกระดาษสีน้ำตาล เป็นอันดับแรก ซึ่งถุงกระดาษสีน้ำตาลที่เราเห็นกันมาอย่างคุ้นตาตั้งแต่เด็กๆ นั้น เป็นถุงกระดาษที่ทำมาจาก กระดาษคราฟท์ หรือ กระดาษรีไซเคิลที่ทำจากเยื่อไม้โดยผ่านกระบวนการต่างๆทางเคมีจนกลายเป็นกระดาษคราฟ์ที่มีสีน้ำตาลจากธรรมชาติมีเนื้อกระดาษที่ค่อนข้างหยาบพอประมาณแต่มีความแข็งแรงทนทานสามารถนำมาใช้ผลิตถุงกระดาษถุงช้อปปิ้งได้อย่างหลากหลาย
แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถใส่ของที่มีน้ำหนักเยอะๆได้ และจะไม่สามารถโดนน้ำได้เพราะส่วนใหญ่จะใช้กระดาษคราฟท์ที่มีความหนาตั้งแต่ 70-300 แกรม เหมาะกับใส่สินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ขนม อาหารและสินค้าอื่นๆที่มีน้ำหนักปานกลางหรือเหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์รักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อม
ด้วยความที่ตัวกระดาษมีสีน้ำตาล ทำให้เวลาพิมพ์ถุงกระดาษ สีที่ได้จะค่อนข้างดรอปลงเล็กน้อยจึงไม่นิยมใช้สีสดๆ และนิยมใช้เพียงสีเดียวมากกว่าการใช้หลายๆ สี เช่น สีดำ สีขาว เป็นต้น
สำหรับกระดาษปอนด์ เป็นกระดาษที่มีต้นทุนในการผลิตค่อนข้างถูก ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมใช้กระดาษปอนด์มาทำถุงกระดาษเป็นจำนวนมากแต่เนื่องจากกระดาษปอนด์ที่ใช้ มีปริมาณความหนาอยู่ที่ 80-100 แกรมซึ่งถือว่าค่อนข้างบาง จึงเหมาะกับการใส่สินค้าที่มีน้ำหนักเบา เช่น เครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของใช้กระจุกกระจิก เป็นต้น และด้วยความที่กระดาษปอนด์มีเนื้อกระดาษสีขาวเมื่อนำไปพิมพ์ถุงกระดาษจะให้สีที่อ่อนลง ไม่ฉูดฉาดจึงเหมาะกับการพิมพ์สีเดียว หรือพิมพ์เฉพาะโลโก้เท่านั้น
แต่หากเป็น ถุงกระดาษที่สวยดูดี มีความพรีเมียมนั้น ส่วนใหญ่จะทำมาจาก กระดาษอาร์ตการ์ด ที่มีความหนา แข็งแรงทนทานมากกว่ากระดาษทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมาโดยกระดาษอาร์ตการ์ดที่นำมาใช้ทำถุงกระดาษจะใช้ความหนาตั้งแต่ 170-400 แกรม ซึ่งสามารถใช้รับน้ำหนักสินค้าได้ดี สามารถถูกน้ำได้ในระดับหนึ่งเหมาะกับการใส่สินค้าแทบทุกชนิด และนิยมนำไปใช้ทำถุงช้อปปิ้งถุงแบรนด์ต่างๆ
โดยเนื้อกระดาษอาร์ตการ์ดเป็นกระดาษที่มีความเรียบเนียน พื้นผิวมันเมื่อนำไปพิมพ์ถุงกระดาษจะได้สีสันสดใส ภาพคมชัด สวยงามกว่ากระดาษชนิดอื่น โดยสามารถ เคลือบเงา หรือ เคลือบด้านเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ถุงกระดาษ ทำให้ถุงกระดาษคงรูปและไม่มีรอยแตกเวลาพับถุงอีกทั้งยังทำให้ถุงกระดาษดูสวยโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ร่วมกับเทคนิคการพิมพ์อื่นๆ
ในการพิมพ์ถุงกระดาษได้อีก เช่น ปั๊มจม ปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ เคลือบสปอตยูวี เป็นต้น ก็จะยิ่งทำให้ถุงกระดาษมีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะ และช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้เป็นอย่างดี
การผลิตถุงกระดาษ แน่นอนว่าจะต้องมี หูหิ้วถุงกระดาษ ด้วยเช่นกัน แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้มากในแง่ของบรรจุภัณฑ์ โดยประเภทของเชือกที่นำมาใช้เป็นหูหิ้วถุงกระดาษนั้นก็มีหลายประเภท และมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เราจึงควรเลือกตามความเหมาะสมด้วยว่าเชือกนั้นสามารถตอบโจทย์กับการใส่สินค้าของเราได้หรือไม่ เพราะหากเลือกเชือกหูหิ้วถุงกระดาษที่ไม่เหมาะกับสินค้าก็อาจทำให้หูถุงกระดาษขาด และสร้างความเสียหายต่อสินค้าที่อยู่ในถุงได้ โดยเชือกหูหิ้วกระดาษ สามารถแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
เชือกกระดาษ ที่ใช้ทำหูหิ้วนั้น มีให้เลือกทั้งแบบหูเกลียว และหูตีแบน ซึ่งเหมาะกับถุงกระดาษที่ใช้ใส่ของที่ไม่ได้หนักมาก อาจเป็นของเล็กๆ น้อยๆ เช่น เครื่องประดับ เครื่องเขียน เครื่องสำอาง เสื้อผ้า หรือสินค้าอื่นๆ ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม เพราะหากใส่ของหนักเกินไป อาจทำให้หูหิ้วรับน้ำหนักไม่ไหว และขาดได้ง่ายๆ นอกจากนี้เชือกกระดาษยังไม่กันน้ำ ไม่ทนความชื้น ซึ่งส่งผลให้หูหิ้วถุงกระดาษเปื่อยและขาดได้
หากอยากให้หูหิ้วถุงกระดาษมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกใช้เชือกถัก ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ เช่น เชือกเปีย เชือกเกลียว และเชือกกลม โดยเชือกถักถือเป็นอีกหนึ่งเชือกที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถุงกระดาษของแบรนด์สินค้าพรีเมียม หรือสินค้าทั่วไป เนื่องจากเป็นหูหิ้วที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 10 กิโลกรัม มีความแข็งแรงคงทน ถือง่าย และไม่บาดมือ ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้วัสดุที่นำมาใช้ทำเชือกถักก็มีต่างกันไป เช่น เชือกถักจากฝ้าย, เชือกถัก PP และ เชือกถัก PES หรือเชือกถักจากเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ ซึ่งสามารถนำไปย้อมสีต่างๆ ให้เข้ากับถุงกระดาษของแบรนด์ได้ตามต้องการ
สำหรับถุงกระดาษที่ใช้เชือกผ้า หรือ ริบบิ้น มาเป็นหูหิ้วถุงกระดาษนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าที่มีความพรีเมียม หรูหรา ราคาแพงเพราะเชือกผ้าหรือริบบิ้นนั้นทำให้ถุงกระดาษดูดีมีราคาและช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าหรือแบรนด์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้หูหิ้วมีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดีและสามารถโดนน้ำได้ไม่ขาดง่ายมีให้เลือกหลายแบบ ได้แก่ เชือกริบบิ้นซาติน เทปก้างปลาและกรอสเกรนโดยสามารถกำหนดสีและความกว้างของริบบิ้นได้ตามความเหมาะสม
การเลือกกระดาษและเชือกที่นำมาใช้ทำถุงกระดาษนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยให้การผลิตถุงกระดาษเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในปัจจุบันนี้แค่ถุงกระดาษเรียบๆ เพียงอย่างเดียว ก็อาจยังไม่น่าดึงดูดใจเท่าไรนัก ทำให้ต้องมีการออกแบบถุงกระดาษสวยๆ ที่มีโลโก้ หรือลวดลายมาประดับตกแต่ง เพิ่มความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้ามากยิ่งขึ้น
การออกแบบถุงกระดาษ ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่สามารถสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับลูกค้า ยิ่งหากเป็นถุงกระดาษที่ออกแบบมาอย่างสวยงามด้วยโดดเด่นแล้ว สามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยส่งเสริมและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์แล้ว ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ทำให้เกิดการจดจำได้ง่ายอีกด้วย โดยเราสามารถออกแบบถุงกระดาษให้น่าสนใจได้โดยใช้เคล็ดลับดีๆ ดังต่อไปนี้
เพราะถุงกระดาษสวยๆช่วยทำให้สินค้าดูดี มีความน่าเชื่อถือ สามารถเพิ่มการจดจำแบรนด์และช่วยเพิ่มยอดขายได้เช่นกันถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยส่งเสริมแบรนด์ได้เป็นอย่างดียิ่งหากถุงกระดาษมีคุณภาพดี มีความพรีเมียมก็ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสินค้าที่อยู่ด้านในถุงก็ย่อมมีคุณภาพด้วยเช่นกันอีกทั้งยังทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยบางคนเลือกซื้อของ เพราะต้องการถุงกระดาษสวยๆมาเก็บสะสมหรือนำไปใช้งานได้ต่อไปในอนาคต เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญมากในการผลิตถุงกระดาษ ก็คือการเลือกใช้กระดาษและเชือกหูหิ้ว ควรเลือกให้เหมาะกับสินค้าของเรา โดยคำนึงถึงความสามารถในการใส่สินค้าเป็นหลัก ว่าถุงกระดาษนั้นจะสามารถใส่สินค้าได้อย่างปลอดภัยสามารถรองรับน้ำหนักสินค้าได้ดี ไม่ฉีกขาดก่อนการเปิดใช้งาน โดยหากใครที่ต้องการสั่งผลิตถุงกระดาษ ถุงช้อปปิ้งถุงแบรนด์เนม ถุงโฆษณา ถุงใส่ของ ถุงใส่สินค้าทั่วไป ให้ Printcafe.asia ได้ให้บริการคุณเรารับผลิตถุงกระดาษทุกประเภท ใช้วัสดุคุณภาพดี โดยมี 3 ขนาดให้เลือก ได้แก่
สามารถผลิตตามขนาดที่ต้องการบรรจุสินค้า หรือติดต่อโรงพิมพ์เพื่อสอบถามขนาดที่โรงพิมพ์มีบล็อก
เราจะเห็นว่า ร้านค้าต่างๆไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าหันมานิยมใช้ถุงกระดาษกันมากขึ้นเพราะว่านอกจากจะเป็นการช่วยรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแล้วถุงกระดาษเป็นถุงประเภทหนึ่งที่ร้านค้านิยมใช้เพื่อบรรจุสินค้าที่ลูกค้าซื้อ ทำมาจากกระดาษที่มีคุณสมบัติในการใช้งานแตกต่างกันไป แต่ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม