5 สิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการควรรู้ ในการผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง

ผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง กับ 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรรู้

เพราะ “กล่องแพคเกจจิ้ง” ไม่ได้มีไว้แค่ใช้บรรจุสินค้าเฉยๆ แต่ยังสามารถใช้แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้าและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งหากกล่องแพคเกจจิ้งหรือกล่องบรรจุภัณฑ์มีความสวยงาม โดดเด่น และมีคุณภาพ ก็จะช่วยยกระดับสินค้า สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด และสร้างการจดจำภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งในการผลิตกล่องแพคเกจจิ้งนั้น ก็มีสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญ ดังนี้

1.เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ก็คือต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายก่อนว่าสินค้าของเรานั้นตอบโจทย์กับผู้บริโภคกลุ่มใดมากที่สุด เพื่อที่จะได้ผลิตสินค้าและกล่องแพคเกจจิ้ง ได้อย่างเหมาะสม และเมื่อเรารู้แล้วว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร เพศใด อายุเท่าไรบ้าง ก็จะช่วยในเรื่องของการเลือกวัสดุทำกล่องแพคเกจจิ้ง

การเลือกรูปแบบกล่อง รวมถึงการออกแบบ ได้อย่างง่ายดาย โดยจะต้องมีการปรับดีไซน์ให้เหมาะสมมากที่สุด เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นวัยทำงาน ที่มีกำลังซื้อสินค้าพรีเมียม ราคาแพง ก็ควรผลิตกล่องแพคเกจจิ้งที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงคงทน มีการออกแบบที่สวยหรูดูแพง และมีความโดดเด่น

ยกตัวอย่างเช่น กระดาษที่ใช้ทำกล่องมีการเคลือบเงา ส่วนตัวโลโก้และลวดลายบนกล่องปั๊มฟอยล์ทอง ดูสวยสะดุดตา ลูกค้าเห็นแล้วก็เกิดความสนใจ อยากซื้อผลิตภัณฑ์ไปลองใช้ เป็นต้น

2.มีรูปแบบกล่องแพคเกจจิ้งที่ใช้งานง่าย

ในการผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง ควรคำนึงถึงการใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ผู้บริโภคสามารถแกะกล่องเพื่อหยิบใช้สินค้าได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น

• กล่องฝาเสียบก้นเสียบ – เปิดปิดง่าย และบรรจุสินค้าได้อย่างมิดชิดแน่นหนา เหมาะกับสินค้าทั่วไปที่มีน้ำหนักเบาถึงปานกลาง เช่น กล่องสบู่ กล่องครีม กล่องเครื่องสำอาง กล่องลิปสติก เป็นต้น
• กล่องฝาเสียบก้นขัด – เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ เช่น กล่องใส่แก้วน้ำ กล่องใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ เป็นต้น โดยฝาปิดด้านล่างจะขัดกันสนิทไม่เปิดอ้าออกมา แม้ว่าสิ่งของข้างในจะมีน้ำหนักมาก 
• กล่องฝาเปิดบน – เหมาะกับสินค้าประเภทขนม อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโชว์สินค้าหลายชนิดภายในกล่อง เช่น กล่องเซ็ท เป็นต้น 
• กล่องฝาครอบ – เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความพรีเมียมหรูหราเป็นพิเศษ เช่น กล่องครีม กล่องเครื่องประดับ กล่องรองเท้า เป็นต้น 
• กล่องฝาสไลด์ – เหมาะกับสินค้าทั่วไป เช่น กล่องเครื่องสำอาง กล่องอาหารเสริม หรือสินค้าที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้แบรนด์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

3.ใช้กระดาษคุณภาพดีในการผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง

กล่องแพคเกจจิ้งที่ดี ก็ย่อมหมายถึงความมีคุณภาพของแพคเกจจิ้งที่มีความแข็งแรงคงทน สามารถใช้ใส่สินค้าได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังช่วยกันกระแทก ช่วยกันฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้สินค้าเสียหายหรือเสื่อมสภาพลงไปได้

ซึ่งในการผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง หากเลือกกระดาษที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยส่งผลให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ และยังส่งผลต่อการพิมพ์สีให้มีความติดทน ได้ภาพคมชัด สีสดใส โดยส่วนมากจะนิยมใช้ กระดาษอาร์ตการ์ด กระดาษกล่องแป้งหลังเทา กระดาษกล่องแป้งหลังขาว และ กระดาษคราฟท์

4.มีการออกแบบกล่องแพคเกจจิ้งที่น่าสนใจ

การออกแบบกล่องแพคเกจจิ้ง ก็ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการผลิตกล่อง ซึ่งการออกแบบกล่องที่ดีควรมีการเลือกใช้สีสันที่สดใสหรือเป็นสีเฉพาะของแบรนด์ ร่วมกับการใส่โลโก้ และตัวหนังสือที่โดดเด่น โดยควรจัดวางองค์ประกอบให้เหมาะสม ใส่เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นของสินค้า

อย่างเช่น สรรพคุณ ส่วนประกอบ วันที่ผลิต วันหมดอายุ รวมไปถึงเครื่องหมายทางการค้าต่างๆ ไม่ใส่ข้อความหรือดีไซน์ลวดลายที่เยอะจนเกินไปเพราะจะทำให้กล่องแพคเกจจิ้งดูรกมากกว่าดูสวย

หรืออาจออกแบบด้วยการเพิ่มเทคนิคเสริมเข้าไปให้กล่องแพคเกจจิ้งสวยสะดุดตามากขึ้น อย่างการเคลือบฟอยล์ เพิ่มความเงาวาวให้กับกล่อง หรือ เคลือบด้านพร้อมกับปั๊มสปอตยูวีเฉพาะจุด ก็ช่วยทำให้กล่องดูหรูหราพรีเมียม เป็นต้น

นอกจากจะทำให้กล่องน่าสนใจกว่าคู่แข่งแล้ว ยังช่วยสร้างภาพจำให้กับลูกค้า เมื่อเห็นแล้วก็จำได้ทันทีว่าเป็นของแบรนด์เรา และเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำได้มากขึ้น

5.เลือกโรงงานผลิตกล่องแพคเกจจิ้งที่มีคุณภาพ

สำหรับการผลิตกล่องแพคเกจจิ้งนั้นจะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้เลยถ้าไม่มีโรงงานผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน ที่จะช่วยสร้างสรรค์และผลิตกล่องแพคเกจจิ้งได้ตามที่คุณต้องการ

ซึ่งเราควรเลือกโรงงานผลิตกล่องที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ การออกแบบ วิธีการผลิต การจัดส่งสินค้า และมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงมีตัวอย่างผลงานที่สามารถดูเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกใช้บริการนั่นเอง