ข้อแตกต่างระหว่าง สติ๊กเกอร์ไดคัทและสติ๊กเกอร์ธรรมดา
บทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างสติ๊กเกอร์ไดคัทและสติ๊กเกอร์ธรรมดา รวมถึงการใช้งานและคุณสมบัติของทั้งสองสติ๊กเกอร์ เพื่อหาสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสำหรับคุณ
ปัจจุบัน สติ๊กเกอร์ถือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อเนกประสงค์ที่สามารถนำเอาไปใช้ทำประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนมากแล้วสติ๊กเกอร์จะมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยปิดผนึกแพคเกจจิ้ง หรือกล่องให้สนิทมากยิ่งขึ้นและยังช่วยในเรื่องของการป้องกันสำหรับการลอกเลียนแบบได้เป็นอย่างดี ซึ่งในสมัยนี้ที่มีแบรนด์สินค้าใหม่ออกมารองรับกับตลาดของผู้บริโภค ฉะนั้นแล้วสำหรับการค้าขายหรือจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์สักหนึ่งชิ้นนั้นก็จำเป็นที่จะต้องทำให้มีความโดดเด่นและแตกต่างในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ซึ่งการออกแบบ ดีไซน์ที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในสินค้าได้นั้น อาจจะต้องใช้แพคเกจจิ้งในรูปแบบที่แปลกตา เพื่อเป็นการดึงดูดความน่าสนใจและอีกหนึ่งองค์ประกอบที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจนั้นก็คือ “ฉลากสินค้า” ที่จะช่วยเพิ่มมิติความน่าสนใจและยังเป็นการเพิ่มลูกเล่นให้กับสินค้าผลิตภัณฑ์ได้ดีอีกด้วย ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการออกแบบสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าว่าจะมีสิ่งไหนบ้างที่ไม่ควรใส่ลงไปในงานออกแบบ
โทนสี หรือธีมในการออกแบบเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการกำหนดแนวทางของการออกแบบนั้นจะต้องใช้โทนสีให้เข้ากับสินค้า ผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นการสื่อสารที่ไปในทิศทางเดียวกันโดยทั่วไปแล้วสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าจะติดอยู่บนกล่องแพคเกจจิ้ง ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้เพื่อปิดผนึกหรือเป็นสติ๊กเกอร์ที่ติดเอาไว้เพื่อเป็นการบอกถึงรายละเอียดสินค้า ฉะนั้นแล้วการใช้โทนสีให้เข้ากับตัวสินค้าหรือแพคเกจจิ้งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้ภาพรวมของสินค้าออกมาดูดีได้อย่างแน่นอน
บนสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า ตัวอักษร ตัวหนังสือเป็นเหมือนข้อมูลที่จะสื่อไปยังผู้บริโภคได้รับรู้ว่าสินค้าที่อยู่ภายในคืออะไร หรือสินค้าที่อยู่ภายในมีคุณสมบัติอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นแล้วตัวหนังสือที่เลือกมาจะต้องอ่านแล้วเข้าใจได้ในทันที และเมื่อมองดูจะต้องสบายตา หรือใช้ฟอนต์ที่ดูแล้วอ่านไม่เข้าใจเพราะฉะนั้นควรเลือกฟอนต์ที่มองแล้วสบายตาอ่านแล้วสบายใจ
การใส่ข้อมูลของสินค้า หรืออธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะต้องอยู่ในกระบวนการออกแบบอยู่แล้ว แต่สำหรับสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้าการใส่ข้อมูลตัวหนังสือที่ใส่ลงไปนั้นจะต้องมีความกระชับ ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป เพราะสติ๊กเกอร์ฉลากจะมีเนื้อที่จำนวนจำกัดจึงต้องใส่แต่ข้อมูลที่สำคัญลงไปเท่านั้น เพราะบนตัวสินค้าหรือบนแพคเกจจิ้งก็จะมีเนื้อที่สำหรับใส่คำอธิบายเอาไว้อยู่แล้วตรงนี้จึงไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลที่ไม่สำคัญลงไป