ทำไมการเลือกขนาดกล่องบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม ถึงสำคัญ?
ในบทความนี้จะสำรวจเหตุผลที่ทำให้การเลือกขนาดกล่องบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ พร้อมกับแนวทางในการเลือกขนาดกล่องที่เหมาะสม
แพคเกจจิ้งที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีให้เราผู้ประกอบการ และผู้บริโภคได้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายประเภทตามคุณสมบัติ และการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยส่วนมากแล้วแพคเกจจิ้งจะนำไปใช้ประโยชน์ทำให้ สินค้า ผลิตภัณฑ์ ดูสวยงาม และเพิ่มมูลค่านั่นเอง และยังรวมไปถึงการป้องกันสินค้า ทั้งในด้านของการขนส่ง เคลื่อนย้าย หรืออาจได้รับแรงกระแทกจากการขนส่งได้ ซึ่งสินค้าที่เราพบเห็นได้จากการบรรจุลงไปในกล่องแพคเกจจิ้งนั้น ก็มีอยู่มากมาย อาทิเช่น เครื่องสำอาง ครีมทุกประเภท เครื่องประดับ อาหาร เครื่องดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสินค้า ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทนั้นก็จะเหมาะกับกล่องแพคเกจจิ้งที่ใช้วัสดุแตกต่างกันไป ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติความโดดเด่นที่ไม่เหมือนกัน จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ให้เลือกใช้งาน แต่ก็จะมีสินค้าประเภทอาหารที่จะต้องวัสดุเฉพาะที่สามารถรองรับกับอุณหภูมิ ความชื้น ความมันของอาหารได้ ด้วยเหตุนี้กล่องแพคเกจจิ้งที่ใส่สินค้าอาหารจึงต้องใช้วัสดุเฉพาะเพื่อสามารถรักษาคุณภาพ และอุณหภูมิไว้ให้ดี วันนี้จะมาดูกันกับ กล่องแพคเกจจิ้งที่สามารถรับมือกับอาหารแต่ละชนิดได้อย่างอยู่หมัด
อาหารประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประเภทของทอดส่วนใหญ่ จึงทำให้กล่องแพคเกจจิ้งที่นำมาสำหรับบรรจุนั้นต้องสามารถกักเก็บความมัน หรือสามารถดูดซับความมันที่อาจจะออกมาจากตัวอาหารให้ไม่ซึมออกไปภายนอกกล่องแพคเกจจิ้งได้นั่นเอง ซึ่งวัสดุที่มีคุณสมบัติและสามารถทำแบบนั้นได้ก็จะมีวัสดุอย่าง กระดาษคราฟท์, กระดาษแป้งหลังเทา, กระดาษแป้งหลังขาว เป็นต้น อย่างเช่น กระดาษคราฟท์นั้นแน่นอนว่ามีคุณสมบัติที่ทำมาจากธรรมชาติ จึงมั่นใจได้เลยว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้ความมันซึมออกไปภายนอกกล่องได้ และกระดาษแป้งหลังเทากับขาว ก็ยังเป็นวัสดุที่หนาและยังสามารถดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าอาหารที่จะอร่อยได้นั้นเรื่องอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ยิ่งเป็นบริการในรูปแบบ take away กล่องแพคเกจจิ้งจึงต้องรักษาอุณหภูมิได้ทั้ง ร้อน และเย็นไว้อยู่เสมอ ตลอดช่วงเวลาที่ขนส่ง หรือเคลื่อนย้ายสินค้าอยู่นั่นเอง ซึ่งวัสดุที่เหมาะกับการรักษาอุณหภูมิได้นั้นจะเป็น วัสดุประเภท กระดาษแป้งหล้งขาว และหลังเทา พลาสติก ฟอยล์เป็นต้น โดยกระดาษแป้งหลังขาว และหลังเท่านั้นจะมีความหนาของกระดาษอยู่แล้ว จึงสามารถรักษาความร้อน และเย็นได้ดี รวมไปถึงพลาสติก และฟอยล์ ที่จะรักษาความร้อนให้อาหารยังคงความอร่อย และอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ได้ตลอดเวลา
ขนม หรือเบเกอรี่ เป็นอาหารประเภทของหวานที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วทุกวัย ซึ่งอาหารประเภทนี้ก็จะแบ่งออกไปอีกหลากหลายประเภท ทั้งเค้ก ขนม คุกกี้ ขนมไทย ขนมอบ เป็นต้น ซึ่งข้อดีของอาหารประเภทนี้จะไม่ต้องเน้นเหมือน 2 ข้อที่ผ่านมา แต่อาจจะเน้นไปที่ความสวยงามของก่องแพคเกจจิ้งที่นำมาบรรจุลงไปนั่นเอง ซึ่งวัสดุที่เหมาะกับการนำมาใช้ก็จะเป็นประเภท กระดาษอาร์ต อาร์ตการ์ด อาร์มัน กระดาษคราฟท์ ที่สามารถพิมพ์ลาย หรือสกรีนกราฟิกลวดลายต่างๆลงไปได้ เพิ่มเพิ่มความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี