ผลิตกล่องแพ็คเกจจิ้ง ทั่วไทย เริ่มต้นเพียง 100 กล่องต้องที่โรงพิมพ์ printcafe
หากคุณกำลังเริ่มต้นทำแบรนด์ใหม่ด้วยงบที่ไม่สูง การเลือกโรงพิมพ์ผลิตกล่องแพคเกจจิ้งราคาถูกที่มีคุณภาพ โรงพิมพ์ Printcafe คือคำตอบสำหรับคุณ
ทุกวันนี้เทคโนโลยีการพิมพ์ต่างๆในบ้านเราก็มีให้เลือกมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีการพิมพ์ต่างๆ ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นเลยนะครับ เพราะมันจะทำให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะออกมาได้ตามที่เราต้องการ
ทุกวันนี้ก็เลยทำให้ระบบการพิมพ์สามารถที่จะทำให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะออกมาได้ตรงกับความต้องการ อย่างไรก็ตามการพิมพ์ในรูปแบบออฟเซ็ทหลายๆคนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนะครับว่ามันเป็นระบบการพิมพ์ในรูปไหน มีเทคโนโลยีการพิมพ์เป็นแบบใดแต่เชื้อได้เลยนะครับว่ามันจะทำให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะออกมาได้ตรงกับความต้องการ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ในรูปแบบไหนก็ตามแต่ ถ้าหากเรามีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบแน่นอนจะทำให้ชิ้นงานของเราสามารถที่จะออกมาได้ตรงกับความต้องการ ดังในการเลือกระบบการพิมพ์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็น ทั้งนี้ทั้งก็ขึ้นอยู่กับชิ้นงานของเราด้วยนะครับว่าระบบที่เราต้องการสามารถที่จะซับพอร์ตเทคโนโลยีการพิมพ์ของเราหรือไม่ เอาเป็นว่าวันนี้เรามาดูกันดีกว่านะครับจริงๆ แล้วการพิมพ์แบบออฟเซ็ทมันคืออะไร แล้วมันเป็นอย่างไร ไม่รอช้าเราไปดูกันเลย
การพิมพ์แบบออฟเซ็ทก็เป็นการพิมพ์แบบพื้นราบที่ใช้หลักการโดยนำน้ำและน้ำมันไม่รวมตัวกัน ซึ่งบนแผ่นแม่พิมพ์ก็จะมีทั้งสองส่วน คือบริเวณที่ไม่มีภาพก็จะเป็นที่รับน้ำและในส่วนที่มีภาพก็จะเป็นสารเคมีที่เป็นพวกเดียวกับหมึก โดย หมึกของการพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทก็จะไม่ไปเกาะกับน้ำนะครับแต่จะเป็นการไปเกาะที่ภาพแทน หลังจากก็จะถูกถ่ายบนผ้ายางและกระดาษเพื่อที่จะพิมพ์ต่อไป
การพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทสามารถที่จะพิมพ์ได้ตั้งแต่ 1 สีจนไปถึง 4 สีด้วยกัน หรืออาจจะมากกว่าก็ได้ด้วย ถ้าหากเรามีความต้องการที่จะใช้ ซึ่งในทุกวันนี้การพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทโดยทั่วไปก็มีอยู่ด้วยกันถึง 3 ระบบด้วยกันคือ
ซึ่งทั้งสามระบบนี้ก็มีระบบทำความชื้นและระบบการจ่ายหมึกให้แก่แม่พิมพ์ เมื่อมีการเคลื่อนไหวแม่พิมพ์ก็จะหมุนรับน้ำ หรือความชื้นแล้วจึงไปรับหมึก เมื่อพิมพ์สามารถที่จะพิมพ์ในบริเวณภาพได้แล้วก็จะหมุนลงไปถ่ายโอนเพื่อไปให้โมผ้ายางแล้วจึงถ่ายลงบนวัสดุการพิมพ์ ซึ่งจะมีโมกดพิมพ์เป็นตัวควบคุม อย่างไรก็ตามเครื่องพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทก็มักจะมีเครื่องที่ใหญ่เป็น แถมมีราคาที่แพงอีกด้วยนะครับ ซึ่งการบำรุงรักษาแต่ละครั้งก็มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย แถมวิธีการตั้งค่าและการใช้งานต่างๆ ก็มักจะมีความยุ่งยากและวุ่นวายเป็นอีกด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ในระบบแบบนี้ก็มักจะมีราคาที่แพงเป็น
อย่างไรก็ตามถ้าหากใครที่คิดจะพิมพ์ในระบบแบบนี้ก็จะต้องทำใจในเรื่องราคาด้วย เพราะมักจะมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงเป็น อย่างไรก็ตามถ้าหากเราพิมพ์ในปริมาณที่เยอะก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายสามารถที่จะถูกลงได้เช่นกัน ดัง ถ้าจะให้ตอบโจทย์กับความต้องการในการผลิตการที่เรามีการพิมพ์ในปริมาณที่น้อยการพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลก็น่าจะสามารถที่จะตอบโจทย์ซะมากกว่านะครับ เพราะถือเป็นรูปการพิมพ์ที่ทันสมัยเป็น ทำให้การพิมพ์มีราคาที่ถูกลงเป็นซึ่งถ้าให้เทียบคุณภาพในการพิมพ์กับระบบการพิมพ์ออฟเซ็ทก็อาจจะเทียบไม่ได้นะครับ เพราะการพิมพ์ดิจิตอลก็มีข้อจำกัดหลากหลายอย่างด้วยกันอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็อย่างที่บอกว่างานพิมพ์แต่ละชนิดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละชิ้นงานสักมากกว่า ซึ่งถ้าหากมีงบประมาณที่เยอะก็น่าจะสามารถที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการพิมพ์ในระบบออฟเซ็ทส่วนใหญ่ก็จะแบ่งออกเป็นสอง 2 เครื่องพิมพ์ด้วยกันดังต่อไปนี้ 1. เครื่องพิมพ์ป้อนแผ่น โดยเครื่องพิมพ์ชนิดนี้ก็จะเหมาะกับงานพิมพ์ที่ไม่ใหญ่มาก โดยจะใช้พิมพ์ในกระดาษขนาด B0 B1 หรือ B2 2. เครื่องพิมพ์ชนิดป้อมม้วน โดยจะเหมาะสมกับการพิมพ์พวกหนังสือพิมพ์ สมุดโทรศัพท์ หรือ แคตตาล็อกต่างๆ ซึ่งสามารถที่จะทำให้การพิมพ์มีระบบการพิมพ์ที่ให้ความละเอียดสูง แถมกระดาษม้วนก็มีราคาที่ถูกกว่ามาก เอาเป็นว่าระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทก็ถือเป็นอีกหนึ่งระบบที่จะทำให้งานพิมพ์ของเราสามารถที่จะพิมพ์ออกมาได้ตรงตามคุณภาพที่เราต้องการ
ซึ่งการพิมพ์แบบนี้ก็อย่าลืมนะครับจะต้องดูความเหมาะสมของงานที่เราจะสั่งพิมพ์ด้วยเนื่องจากการพิมพ์แบบนี้ก็มักจะมีราคาที่แพงเป็น แต่ถ้าเราพิมพ์ในปริมาณที่เยอะก็จะทำให้เราเกิดความคุ้มค่ากันอย่างแน่นอน และชิ้นงานที่เราจะได้กลับมาก็จะมีความสวยและมีความน่าสนใจเป็นอีกด้วย
ดังอย่าลืมนะครับว่าระบบการพิมพ์แต่ละชนิดมักจะมีความแตกต่างกันออกไป ก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับชิ้นงานที่เรานำไปใช้งานด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม >> เพิ่มยอดขายง่ายๆด้วยการ ปรับโฉม กล่อง Packaging