เรื่องน่ารู้สำหรับผู้ประกอบการกฎหมายเรื่องบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มีการแข่งขันทางด้านการค้าสูง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น จากความตื่นตัวของผู้บริโภค ทางภาครัฐจึงต้องออกกฎหมายข้อบังคับ มาควบคุมบรรจุภัณฑ์ เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมายแบบไม่ได้ตั้งใจ

วันนี้ Printcafe เราได้นำข้อกฎหมายควบคุมที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการทุกท่านควรรู้ไว้นั้นมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

พระราชบัญญัติมาตราชั่งวัดตวง

เพื่อให้ได้บริโภคสินค้าตามปริมาณที่กำหนด พ.ร.บ. ฉบับนี้จึงร่างขึ้นเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค โดยขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ประกอบการ ในการดูแลเอาใจใส่ในการบรรจุสินค้าของตนเองให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ใช้ระบบเมตริก แสดงปริมาณสินค้าตามมาตรา ช่วง วัด ตวง ควร และตัวเลขที่ใช้สามารถใช้ตัวเลขอารบิกหรือตัวเลขไทยก็ได้  ซึ่งขนาดของตัวเลขและตัวอักษรที่ใช้ต้องไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร

พระราชบัญญัติอาหาร ..2522 สาระสำคัญ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร และการขึ้นทะเบียนฉลากอาหาร

1. การขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร กำหนดให้ ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องนำอาหารควบคุมเฉพาะ มาขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร เพื่อให้ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนอาหาร

แล้วจึงจะสามารถผลิตหรือนำเข้าเพื่อจำหน่ายได้ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ

2. การขอขึ้นทะเบียนฉลากอาหาร ควบคุมเฉพาะที่กำหนดคุณภาพ และที่กำหนดให้มีฉลากต้องขึ้นทะเบียนอาหารและขออนุญาตใช้ฉลาก เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงทำการผลิตอาหารที่ต้องขออนุญาตใช้

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้บัญญัติให้องค์กรของรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมกำกับดูแล และประสานการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้ความคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่ให้ผู้บริโภคได้ใช้สิทธิ์ร้องเรียน

เพื่อขอให้ได้รับการพิจารณาและชดเชย ความเสียหายเมื่อถูกผู้ประกอบธุรกิจละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภคสิทธิ์พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 

ได้บัญญัติให้องค์กรของรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมกำกับดูแล และประสานการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้ความคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่ให้ผู้บริโภคได้ใช้สิทธิ์ร้องเรียน

เพื่อขอให้ได้รับการพิจารณาและชดเชย ความเสียหายเมื่อถูกผู้ประกอบธุรกิจละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภค

ผู้บริโภคมีสิทธิ์จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย 4 ข้อ ดังนี้

  1. สิทธิ์ที่ได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
  2. สิทธิ์ที่จะมีอิสระ ในการเลือกหาสินค้าและบริการโดยปราศจากการผูกขาด
  3. สิทธิ์ที่จะได้รับความปลอดภัย จาการใช้สินค้า หรือ บริการ
  4. สิทธิ์ที่จะได้ชดเชย ความเสียหายจากการให้สินค้าหรือบริการ

องค์กรของรัฐที่รับผิดชอบ

  1. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีการแบ่งการคุ้มครองผู้บริโภค
  2. การโฆษณา (มีคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา)
  3. ด้านฉลาก (มีคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก)

และมีคณะอนุกรรมการย่อยลงไปอีก เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์พิจารณาความผิดที่เกิดขึ้น

การคุ้มครองผู้บริโภคด้วยฉลากสินค้า

ฉลากตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 กำหนดให้ ข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสินค้า รวมถึงเอกสารหรือคู่มือสำหรับใช้ประกอบสินค้า

สินค้าควบคุมฉลากจากต่างประเทศที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย ต้องระบุชื่อ พร้อมสถานที่ประกอบการของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าสินค้านั้น

และต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าตามประกาศที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนดไว้ในแต่ละประเภทของสินค้า โดยต้องทำฉลากเป็นข้อความภาษาไทยมีความหมายตรงกับข้อความในภาษาต่างประเทศ สินค้าที่กำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมฉลาก มีดังนี้

  1. สิทธิ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ
  2. สิทธิ์ที่ประชาชนทั่วไปใช้เป็นประจำ
  3. สินค้าที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม

พระราชบัญญัติมาตรฐานอุตสาหกรรม พ.ศ.2511

กำหนดให้จัดตั้ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขึ้นในกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ “สมอ.” เป็นหน่วยงานระดับกรมสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม (มอก.) การรับรองระบบคุณภาพ และรับรองความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ

จากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์นั้น เราจึงควรรู้และศึกษาให้แจ่มแจ้ง เพื่อเป็นการป้องกันการทำผิดกฎหมายแบบไม่ได้ตั้งใจ และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีความน่าเชื่อถือ และก้าวทันกับคู่แข่งอยู่เสมอ